ตำรวจปากช่องรวบทอมดี้ตะเวนร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในเขตเทศบาลเมืองปากช่อง 10 วันงัดไป 4 ร้านพร้อมของกลางจำนวนมาก

101
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากช่อง รวบคู่ทอมดี้ หลังตะเวนก่อเหตุงัดร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ในเขตเทศบาลเมืองปากช่อง พร้อมของกลางจำนวนมาก พบระยะเวลาก่อเหตุ 10 วัน งัดไป 4 ร้าน ด้านผู้ต้องหาให้การสารภาพ เผยเงินไม่พอใช้ติดหนี้นอกระบบรายวัน จึงก่อเหตุ

เวลา 13.00 น.วันที่ 19 กันยายน 2559 พ.ต.อ.พงพันธ์ บรรจงจิตร ผกก.สภ.ปากช่อง, พ.ต.อ.บัญญัติ ผกก.สอบสวน ภ.จว.นครราชสีมา, พ.ต.ท.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รองผกก.สส.สภ.ปากช่อง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสายสืบ ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.บุณฑริกา หรือหมี ปัญญาไว อายุ 36 ปี และ น.ส.กมลมาลย์ หรืออุ๋ย ทองแรง อายุ 37 ปี  พร้อมด้วยของกลาง เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ จำนวน 1 ตัว  หมวกคลุมหัวสีขาว  จำนวน 1 ใบ ผ้าปิดจมูกสีขาว จำนวน 1 ชิ้น กระเป๋าสำหรับใส่เครื่องมือ 1 ชิ้น คีมตัดเหล็กด้ามสีส้ม จำนวน 1 ตัว เหล็กปลายแหลม  จำนวน 1 แท่ง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นคลิ๊ก สีขาว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน โทรศัพท์พร้อมอุปกรณ์ กว่า 60 รายการ

102
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2559 เวลา 08.00 น. ร.ต.อ.ศุภณัฐ ช่วงงาม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากช่อง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายประตูเพื่อเข้าไปลักเอาทรัพย์สินภายในร้าน ทรูพาสเนอร์ ตั้งอยู่ที่ 432/2 ถ.มิตรภาพ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้ทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก หลังได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดกระทั่งพบว่า คนร้ายได้สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำสวมหมวกคลุมหัวสีขาว  ใช้ผ้าปิดบังใบหน้า ใช้คีมตัดเหล็กและใช้แท่งเหล็กงัดประตู ในช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ที่ผ่านมา

104
จากการลงพื้นที่ของ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปากช่อง จนกระทั่งทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนางสาวหมี ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.บุณฑริกา ปัญญาไว และนางสาวอุ๋ย ทราบชื่อมาคือ น.ส.กมลมาลย์ ทองแรง ต่อมาวันที่ 19 กันยายน 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาจะมีการจำหน่ายโทรศัพท์ที่คาดว่าได้มาจากการก่อเหตุ จึงนำกำลังเข้าไปตวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 148/5 ถ.เทศบาล 20 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อไปถึงพบผู้ต้องหาทั้งสองยืนอยู่หน้าบ้าน จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอทำการตรวจค้นห้องพักดังกล่าว โดยมีผู้ต้องหาเป็นผู้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในห้องพัก กระทั่งพบของกลางจำนวนมาก

103
จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองได้รับสารภาพว่า ตนประกอบอาชีพขายน้ำเต้าหู้ แต่รายได้ไม่พอจ่ายให้กับแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ ซึ่งต้องจ่ายเงินวันละ 1,500 บาท จากเงินต้นจำนวน 30,000 บาท จึงได้ก่อเหตุขึ้น โดยทรัพย์สินที่พบภายในห้องพัก เป็นของที่ได้ไปลักเอามาจากร้าน ทรูพาสเนอร์ และร้านอื่นๆ ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจริง ซึ่งมีของกลางบางส่วนได้มีการติดต่อขายให้กับบุคคลที่รู้จัก กลุ่มเพื่อน และประกาศขายทางอินเตอร์เน็ต ในราคา เครื่องละ 100 บาท เมื่อทำการตรวจค้นห้องพักเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่จึงทำการยึดของกลางพร้อมแจ้งให้ผู้เสียหายเดินทางมาตรวจสอบทรัพย์สิน และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Previous Article
Next Article

ใส่ความเห็น

– เยาวชนไทย ก้าวสู่อาชีพในฝัน

คลังข่าวรายเดือน