รองประธานกรรมธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ นำทีมประชุมปฏิรูปตำรวจที่ปากช่อง

พล.ต.อ.วรพงษ์  ชีวปรีชา รองประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปกิจการตำรวจ เป็นประธานการประชุมการปฏิรูปกิจการตำรวจ ด้านระบบงบประมาณ พร้อมคณะอนุกรรมาธิการฯที่ปรึกษา

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 2  กุมภาพันธ์ 2560 พล.ต.อ.วรพงษ์  ชีวปรีชา รองประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปกิจการตำรวจ ได้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมการปฏิรูปกิจการตำรวจ ด้านระบบงบประมาณ พร้อมคณะอนุกรรมาธิการฯที่ปรึกษาฯ ณ ห้องประชุมศูนย์ยุทธวิธีตำรวจกลาง ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมี ข้าราชการตำรวจจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย  พล.ต.ต.คีรีศักดิ์  ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3,พล.ต.ต.ณรงค์รัตน์ พิชัยณรงค์ ผบก.งป.(งบประมาณ)สนง.ตร.,พ.ต.อ.ภานุพงศ์  ชอบเพื่อน รอง ผบก.งป.,พ.ต.อ.วิวัฒน์  สีลาเขตต์ รอง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา พร้อม หน.สถานีตำรวจในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จำนวน 51 สภ..ตั้งแต่ ผกก.สภ.,สวญ.,หน.สภ. ,สว.อำนวยการ,หน.งานธุรการ รวมกว่า 100 นาย เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางการปฏิรูปด้านงบประมาณ ทั้งเงินค่าตอบแทน,เงินประจำตำแหน่ง,ค่าเบี้ยเลี้ยง,ค่าล่วงเวลา,ค่าน้ำมันรถสายตรวจทั้งรถยนต์และรถ จยย.,และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในแต่ละ สภ.ค่าน้ำ,ค่าไฟ,ค่าวัสดุอุปกรณ์ที่มีอย่างจำกัด หลังประชุมสรุปแล้วจะได้รวบรวมเพื่อเสนอในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

พล.ต.อ.วรพงษ์  ชีวปรีชา รองประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายฯ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปกิจการตำรวจ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าคณะกรรมาธิการปฏิรูปกิจการตำรวจ ก็มาเก็บข้อมูลเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณของตำรวจเพื่อนำไปสู่การปฏิรูป ประเด็นของการปฏิรูปกิจการตำรวจเราทำหลายเรื่องมีทั้งหมด 9 เรื่อง เรื่องแรกก็คือเรื่องการปฏิรูประบบการรับแจ้งความและการสอบสวนที่สถานีตำรวจซึ่งถือว่าเป็นเรื่องหลักที่สำคัญซึ่งตอนนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็รับแผนของ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไปปฏิบัติอยู่แต่อย่างไรก็ตามในแผนที่จะรองรับ การทำงานของตำรวจ ให้เกิดประสิทธิภาพมันต้องทำให้ครบทุกด้าน ซึ่งเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องของงบประมาณค่าใช้จ่าย ที่ตำรวจแต่ละโรงพักใช้จ่ายซึ่งเรื่องนี้มันเป็นเรามีข้อเท็จจริงมานาน แล้วว่างบประมานที่ตำรวจได้รับนั้นไม่เพียงพอ ซึ่งตัวท่านนายกฯเอง(นายกฯประยุทธ์)ท่านได้เล็งเห็นปัญหานี้เล็งเห็นปัญหานี้ท่านได้ให้นโยบาย ในการประชุมแม่น้ำสามสายก่อนที่ท่านจะประชุมสภา ท่าน พูดเรื่องนี้ชัดเจนว่าประชาชนเรียกร้องผลงานจากตำรวจเยอะมาก แต่ในขณะเดียวกันเราก็ไม่เคย ได้ดูแลตำรวจว่าอยู่กันทุกข์ร้อนอย่างไร ตรงนี้คือเรื่องสำคัญที่ตำรวจเองเค้าก็มีความรู้สึกว่าเค้าดีใจนะครับ ที่มีผู้นำรัฐบาลเห็นปัญหาของเขาเราในฐานะอนุกรรมการก็สนองตอบในการศึกษาเรื่องนี้นะครับและบัดนี้เป็นการลงมาเก็บข้อมูลเพื่อเอาไปยืนยันใน เกณฑ์การตามคำของบประมาณว่าใช่จริงอย่างไรหมายถึงว่ามีการปฏิบัติงานจริงอย่างไรและจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายอย่างไรซึ่งเกณฑ์ใหม่นี้เรียกว่าการวิเคราะห์ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่อการปฏิบัติงานนะครับก็คือสมมุติว่าการปฏิบัติงานถูกแบ่งออกเป็นกี่เขตในแต่ละเขตก็สามารถเอาไปวิเคราะห์ได้ว่ามีค่าใช้จ่ายอย่างไรใช้คนเท่าไหร่ใช้รถกี่คันค่าน้ำมันเท่าไหร่วันนี้เป็นการลงมาเก็บข้อมูล คือวันนี้เป็นการสุ่มตัวอย่างคือจริงๆแล้วเราต้องการข้อมูลอย่างนี้กับทุกสถานีตำรวจ นะครับแต่วันนี้เรามาสุ่มตัวอย่างเฉพาะสถานีตำรวจในจังหวัดนครราชสีมา ที่เราเลือกจังหวัดนี้เพราะว่าจังหวัดนี้มีสถานีตำรวจมากและแบ่งเป็นสถานีระดับใหญ่ระดับกลางระดับเล็กซึ่งเราจะใช้เป็นเกณฑ์ในการวิเคราะห์.  คือ ณ ขณะนี้ในปัจจุบันมันไม่เพียงพออยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามปีล่าสุดเราทราบว่าทางรัฐบาลจัดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มประมาณ 700 กว่าล้านบาท แต่หลังจากที่เราดูเกณฑ์การ ใช้งานจริงเอาสถิติในการออกตรวจออกการทำงานจริงแล้วก็ยัง ก็ยังไม่พอก็ยังขาดอยู่  เท่าที่ดูตัวเลขนะวันนี้  ขอบคุณท่านนายกฯที่ท่านได้เห็นปัญหาและนอกจากเห็นแล้วท่านยัง สื่อออกมาทางสื่อของทางพี่น้องประชาชนตำรวจเองก็ชื่นใจแล้วครับก็ขอให้สนับสนุนต่อเมื่อตัวเลขข้อมูลนี้ขึ้นไปก็ขอให้มั่นใจว่าเราไม่ขอเกินรักจริงๆก็คือเอาเท่าที่จำเป็นไม่มีการบวก เผื่อตัวเลขที่จะขึ้นไปจะถูกต้องแน่นอน