(ชมคลิป)เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์มอตาทา กลางดง พบมีการรุกป่า ตัดต้นไม้เพื่อใช้พื้นที่สร้างศาลา จนท.ป่าไม้ยันรุกสวนป่าแน่นอนพร้อมดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ พร้อมด้วยตัวแทนคณะสงฆ์ อ.ปากช่อง นำกำลังเข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์มอตาทา หมู่ 1 บ้านปางอโศก ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้รับการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกตักเตือนเรื่องการเรี่ยไรนอกเขตพื้นที่มาแล้ว ก่อนจะเปลี่ยนชื่อสำนักสงฆ์และออกเรี่ยไรอีกครั้ง โดยครั้งนี้พบมีการปรับพื้นที่รุกป่า และตัดต้นไม้ในเขตสวนป่า

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่  10  พฤษภาคม 60  นายประทีป  ทิพย์บรรจง ปลัดอำเภอปากช่อง หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมด้วย ร.ท.แสงอรุณ  พึ่งชัยภูมิ พัน ร.มทบ.21 ชุด รักษาความสงบ ประจำ อ.ปากช่อง ,นายดุสิต  กมลพาณิชย์ หัวหน้าสวนป่ากลางดง,นายสฤษดิ์  ศรีสังข์ กำนัน ต.กลางดง,พระทศพร  วรเมธี เลขาฯเจ้าคณะตำบลกลางดง พร้อมกำลังตำรวจ สภ.กลางดง  ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เข้าตรวจสอบ สำนักสงฆ์มอตาทา หมู่ที่ 1 บ้านปางอโศก ต.กลางดง หลังได้รับร้องเรียนว่า   พระในสำนักสงฆ์ดังกล่าวได้แอบตัดต้นไม้ในเขตป่าสงวน และยังออกเรี่ยไรไปหลายพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้เกี่ยวข้องทั้งทางคณะสงฆ์ตำบลกลางดง และทางฝ่ายปกครองเคยตักเตือนแต่ไม่ยอมหยุด   โดยยังออกเรี่ยไรไปทั่วในหลายอำเภอของจังหวัดนครราชสีมาและต่างจังหวัด

สถานที่ตั้งสำนักสงฆ์มอตาทา ห่างจากริมถนนสายหมู่บ้านปางอโศก-บ้านหนองเครือคต  โดยมีป้ายสำนักสงฆ์มอตาทา ติดตั้งอยู่ปากสำนักสงฆ์ทางเข้า เมื่อเลี้ยวเข้าไปประมาณ 100 เมตร พบมีพื้นที่ที่ถูกไถดันปรับที่ดินแล้วประมาณ 2-3 ไร่ มีกุฏิสงฆ์หลังคามุงกระเบื้อง จำนวน 4 หลัง และพบการก่อสร้างศาลาการเปรียญ เป็นโครงเหล็ก เสาคอนกรีต ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 12 เมตร และข้างที่ก่อสร้างศาลาการเปรียญ พบต้นสะเดา ถูกตัด 2 ต้น ตัดเป็นท่อนวางรวมกองไว้ โดยพระรัตนโยธิน  วุฑธิสีโล ให้รายละเอียดว่าตนเป็นเจ้าสำนักสงฆ์แห่งนี้ ซึ่งเป็นผู้ตัดต้นสะเดาทั้ง 2 ต้นเอง เพราะกีดขวางการก่อสร้างศาลาการเปรียญ เจ้าหน้าที่จึงขอดูเอกสารใบสุทธิ ระบุชื่อเดิม นายรัตนโยธิน  พิมพ์จันทร์ อายุ 43 ปี บ้านเดิมอยู่ 150 หมู่ 5   ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ไปอุปสมบทมาจาก วัดอโศการาม ต.ยอดแกง อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ เมื่อ 22 กรกฎาคม 2553 นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่ามีพระภิกษุที่อยู่ใน สำนักสงฆ์อีก 3 รูป พร้อมลูกศิษย์ที่ออกเรี่ยไร และรถยนต์ปิคอัพ 5 คัน ซึ่งมีบางคันที่เคยถูกร้องเรียนกรณีออกเรี่ยไรทั้งในเขตและนอกเขตพื้นที่

สำนักสงฆ์แห่งนี้เดิมชื่อ สำนักสงฆ์อริยมรรคภูมิ โดยก่อนหน้านี้ได้รับการร้องเรียนเรื่องการออกเรี่ยไรนอกพื้นที่เป็นจำนวนมาก จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาตรวจสอบและแจ้งให้เลิกการออกเรี่ยไรเสีย ต่อมาได้มีเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักสงฆ์มอตาทา ออกเรี่ยไรไปหลายพื้นที่ หลายอำเภอจนได้รับการร้องเรียนอีกครั้ง โดย นายสฤษดิ์  ศรีสังข์ กำนัน ต.กลางดง แจ้งว่าได้รับโทรศัพท์สอบถามเป็นประจำว่ามีสำนักสงฆ์แห่งนี้จริงหรือไม่ ออกเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต พระสมาจารวิมล เจ้าคณะอำเภอปากช่อง ไม่อนุญาตให้ออกเรี่ยไร แต่ก็ยังออกเรี่ยไร เมื่อชาวบ้านไม่ยอมรับถังผ้าป่าก็จะไม่พอใจ สร้างความเดือดร้อนรำคาญ

จนท.ได้ตรวจสอบและสอบถามเบื้องต้นแล้วจึงได้นิมนต์ พระรัตนโยธิน เจ้าสำนักสงฆ์ไปทำการสอบสวนที่ สำนักงานสวนป่ากลางดง ก่อนที่จะ ส่ง ร.ต.อ.ไชยวิชิต  พิเมย รอง สว.(สอบสวน)สภ.กลางดง ดำเนินคดีในข้อหา  บุกรุกป่าสงวน ตาม พรบ.ป่าสงวน พ.ศ.2507 ,ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ มีท่อนไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484