ประธานสภา อบต.โป่งตาลอง ถูกช้างพุ่งชนงาเสียบ เหยียบซ้ำกลางดึก (มีคลิปสำรวจที่เกิดเหตุ)

เวลา 01.00 น.วันที่ 4 ตุลาคม 2560 นายครรชิต ศรีนพวรรณ หน.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้รับแจ้งทางวิทยุสื่สารจาก จนท.พิทักษ์อุทยานฯ ขญ.3 ตะเคียนงาม ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง ระบุว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านเทพนิมิตร หมู่ 12 ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่ามีช้างจากอุทยานฯ ออกไปกินพืชไร่บริเวณนอกเขตอุทยาน และพุ่งชน นายบุญเรือง อนุรักษา อายุ 63 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยญาติได้ช่วยกันนำส่ง ประสานงานหน่วยกู้ชีพมูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถาน ที่มีเครื่องออกซิเจนช่วยหายใจ พร้อมประสานงานทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลปากช่องนานา มารับช่วงต่ออีกที

ต่อมา เวลา 11.00 น. พ.ต.ท.เขมชาติ แปดแก้ว สว.(สอบสวน)สภ.หมูสี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เข้าตรวจสอบพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณภายในไร่อ้อย ของนายบุญเรือง อนุรักษา ซึ่งการเดินทางเข้าไปยังที่เกิดเหตุเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะถนนเป็นทางดินโคลน ฝนตกหนัก ถนนเสียหาย เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้า ระยะทางเกือบ 2 กิโลเมตร พบว่าเป็นพิกัด 47P 0784295 UTM 1599663 ซึ่งอยู่นอกแนวเขตอุทยานฯ โดยในที่เกิดเหตุพบรอยเลือด ประทัดยักษ์ลักษณะเป็นลูกบอล และรองเท้า ตกอยู่ในไร่อ้อย

จากการสอบถามข้อมูลทราบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นายบุญเรือง อนุรักษา อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 ม.12 บ้านเทพนิมิต ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ปัจจุบันดำรงค์ตำแหน่งประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งตาลอง อ.ปากช่อง ซึ่งเป็นเจ้าของไร่อ้อยที่เกิดเหตุ โดยก่อนเกิดเหตุ นายบุญเรือง พร้อมด้วย นายบุญเยี่ยม เม่ามีศรี อายุ 47 ปี ได้มาปลูกเพิงพักเพื่อเฝ้าไร่อ้อยซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 30ไร่ ที่อยู่ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประมาณ 100 เมตร เพื่อคอยเฝ้าระวังและผลักดันช้างออกจากไร่อ้อย เนื่องจากช่วงนี้อ้อยใกล้ถึงฤดูกาลตัดอ้อย ช้างมักจะออกมากินอ้อยเป็นประจำเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นทางเดินหากินของช้างป่า โดยในระยะช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมาจะมีช้างออกมาหากินครั้งละ 4-5 ตัวเป็นประจำ ซึ่งนายบุญเรือง และนายบุญเยี่ยม จะคอยไล่ให้กลับไปในเขตอุทยานฯ ทุกครั้ง

สำหรับในคืนวันเกิดเหตุ นายบุญเยี่ยมเล่าว่า เวลาประมาณ 00.30 น. ของวันที่ 4 ตุลาคม 2560 ขณะที่ตนและนายบุญเรือง นอนพักผ่อนอยู่นั้น ได้ยินเสียงช้างออกมาหากินภายในไร่อ้อย ตนและนายบุญเรืองจึงได้ใช้ไฟส่องเพื่อไล่ตามปกติ โดยตนเป็นผู้เดินนำหน้า ทิ้งระยะห่างกับนายบุญเรือง ประมาณ 2 เมตร ขณะนั้นช้างป่า 1 ตัว อยู่ห่างประมาณ 10 เมตรได้เดินมุ่งหน้าเขาหาแสงไฟอย่างรวดเร็ว เมื่อตนเห็นจึงได้เดินหลบพ้นจากเส้นทางเดินของช้างป่าตัวดังกล่าว แต่นายบุญเรือง ที่เดินอยู่ด้านหลัง เกิดอาการตกใจและหลบหนีไม่ทัน ช้างป่าจึงได้พุ่งเข้าชน พร้อมเหยียบซ้ำ ก่อนจะเดินหนีไป ทำให้นายบุญเรือง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนจึงวิ่งออกมาให้ชาวบ้านช่วยพร้อมโทรศัพท์บอกญาติ มารับตัวนายบุญเรืองนำส่ง โรงพยาบาล และด้วยเส้นทางที่เข้าไปยังจุดเกิดเหตุรถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้ จึงต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะนำออกมาขึ้นรถเพื่อเปลี่ยนถ่ายให้รถพยาบาลที่วิ่งมาจากตัวอำเภอปากช่อง ระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร โดยเวลานานกว่า 1 ชม. ผู้บาดเจ็บจึงมาถึงโรงพยาบาลปากช่องนานา ซึ่งคณะแพทย์ได้ทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ก่อนที่นายบุญเรือง จะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา และจากการวินิจฉัยของแพทย์พบว่า ผู้เสียชีวิตกะโหลกศรีษะร้าว กระดูกซี่โครงหัก 5 ซี่ มีรอยช้ำที่บริเวณคอ ทำให้เลือดออกที่จมูกและปาก ปอดฉีก และเลือดออกที่ช่องท้อง เสียชีวิตเนื่องทนพิษบาดแผลไม่ไหว เจ้าหน้าที่จึงร่างเก็บรักษาเพื่อรอญาติประสานงานรับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป