รวบนักการแสบ ฉกบิลน้ำมัน ตร. ไปขายคืนปั๊ม อ้างเป็นคนขับรถผู้กำกับ


เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2560 พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ บรรจงจิตร ผกก.สภ.ปากช่อง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รอง ผกก.สืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปากช่อง ควบคุมตัวนายสมัย พยอมใหม่ อายุ 52 ปี ที่อยู่ตามหลักฐานระบุ เลขที่ 40 หมู่ 8 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมของกลางพระเครื่องจำนวนกว่า 100 องค์ นาฬิกาข้อมือ แผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ และของกลางอื่นๆอีกกว่า 200 รายการ และยาบ้า 13 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ ส่งให้ พ.ต.ท.บวร สมบัติธีระ สารวัตรสอบสวน สภ.ปากช่อง ดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสมัย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำงานเป็นนักการภารโรงที่ สภ.ปากช่อง มา 3 ปีแล้ว ส่วนของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบนั้น ทั้งหมดได้มาจากบ้านพักและแฟลตตำรวจ รวมถึงห้องทำงาน ซึ่งอาศัยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนไว้วางใจ ให้เข้าออกบ้านพักและห้องทำงานได้ ซึ่งเมื่อพบว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง ก็จะแอบดูภายในกระเป๋าสะพายของตำรวจ ถ้าหากพบเงินสดก็จะขโมยมาบางส่วนซึ่งทำแบบนี้มานานแล้ว

โดยนายสมัย ยังบอกอีกว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2560 ที่ผ่าน ได้ขึ้นไปขโมยบิลเติมน้ำมันที่ห้องทำงานของ พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ บรรจงจิตร ผู้กำกับการ สภ.ปากช่อง ซึ่งได้เตรียมไว้สำหรับให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้เติมน้ำมันเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 40 ใบ รวมมูลค่า 4,000 บาท โดยเมื่อ ผกก. พบว่าบิลน้ำมันดังกล่าวหายไป จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถาม ซึ่งต่างก็ไม่ทราบว่าผู้ใดเอาไป

ต่อมา ได้รับแจ้งจากเจ้าของสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งได้ทำข้อตกลงเกี่ยวกับบิลน้ำมันที่หายไป ระบุว่ามีบุคคลอ้างว่า เป็นคนขับรถของ ผกก.สภ.ปากช่อง นำบิลน้ำมันมาขายคืนให้ที่ปั๊ม โดย ผกก. จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ขับรถเป็นประจำ ก็บอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบิลน้ำมันดังกล่าว พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ บรรจงจิตร ผกก.สภ.ปากช่อง จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามหาข่าว จนสามารถสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือนายสมัย ซึ่งเป็นนักการภารโรงของ สภ.ปากช่อง เป็นผู้ก่อเหตุ ทั้งในบ้านพักข้าราชการตำรวจ และห้องทำงานของ ผกก. มาแล้วหลายครั้ง โดยได้ทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้นายสมัย ยังได้เข้าไปลักทรัพย์เป็นเงินสดและพระเครื่องในห้องพักตำรวจบนแฟลตชั้น 2-3 หลายครั้ง ซึ่งเมื่อภรรยาตำรวจและตำรวจหญิง มาดูของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ ต่างก็ยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินของตนเองที่หายไปเมื่อไม่นานนี้

ด้าน พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ กล่าวว่า ไม่นึกว่าผู้ต้องหาจะเป็นคนที่ทำงานอยู่ที่โรงพัก เนื่องจากนายสมัย เป็นนักการภารโรงที่ไว้ใจ สามารถเข้านอกออกในได้หมด ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแจ้งว่ามีของในแฟลตที่พักและเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าในห้องทำงานบนโรงพักหายไป และไม่นึกว่าจะเป็นฝีมือของนายสมัย เป็นผู้ก่อเหตุ แถมยังมียาบ้าพร้อมอุปกรณ์การเสพไว้ในครอบครองอีกด้วย

Previous Article
Next Article

ใส่ความเห็น

– เยาวชนไทย ก้าวสู่อาชีพในฝัน

คลังข่าวรายเดือน