ปศุสัตว์โคราช จัดมหกรรมปศุสัตว์นครชัยบุรินทร์ ครั้งที่ 2 ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์เกษตรกรรม

เวลา 13.00 น. วันที่ 18 พฤษภาคม 2562 นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายอิทธิพล เผ่าไพศาล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอาหารสัตว์ กรมปศุสัตว์ นายเอกภพ ทองสวัสดิ์วงศ์ ปศุสัตว์เขต3 นายพศวีร์ สมใจ ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา นาง ศรีสมัย โชติวณิช ปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ นายอำเภอปากช่อง นายสุพจน์ ศรีสร้อย ผู้แทนกองส่งเสริมปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ นายเยี่ยม คงสวัสดิ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ นายสัมฤทธิ์ อินทร์สว่าง นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงโคบราห์มัน นายอภิวุฒิ อินทรสุข บริษัท CPF และเกษตรกรผู้เลี้ยงกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ร่วมเปิดงานมหกรรมปศุสัตว์นครชัยบุรินทร์ ครั้งที่ 2 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาโคนม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ นายพศวีร์ สมใจ ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า มีกำหนดการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 ถึง 19 พฤษภาคม 2562 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เผยแพร่ความรู้ ประชาสัมพันธ์ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านการปศุสัตว์ รวมถึงการกระตุ้นสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรเห็นความสำคัญและหันมาพัฒนาทางเลือกอาชีพเลี้ยงสัตว์ มากขึ้น สนับสนุนนโยบายปรับเปลี่ยนพื้นที่เกษตรกรรมและความมั่นคงทางอาหาร อีกทั้งเพื่อส่งเสริมอาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมหลักในงานประกอบด้วย การประกวดสัตว์ ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี การจัดนิทรรศการวิชาการและนวัตกรรมการเลี้ยงสัตว์ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน กิจกรรมการฝึกอบรม สัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยงสัตว์ การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าปศุสัตว์-เกษตร ตลาดประชารัฐ และสินค้าชุมชน

ด้านนายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญให้มา เป็นประธานในการเปิดงานมหกรรมปศุสัตว์นครชัยบุรินทร์ ครั้งที่ ๒ ในวันนี้ กลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ เป็นพื้นที่ซึ่ง มีความสำคัญด้านการเลี้ยงปศุสัตว์มากเป็นอันดับตัน ๆ ของประเทศ ไม่ว่า จะเป็นโคเนื้อ โคนม กระบือ สุกร และไก่เนื้อ เป็นตัน เรามีภูมิประเทศที่เหมาะสม เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ เช่น รำข้าว ปลายข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด เป็นต้น พี่น้องเกษตรกรก็คุ้นเคยกับการเลี้ยงสัตว์อยู่แล้ว มีด่านการค้า ชายแดนสำหรับค้าขาย มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการปศุสัตว์รวมทั้งสถานศึกษาจำนวนมากที่พร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ด้านปศุสัตว์ บริษัทเอกชนใหญ่ ๆ ก็ตั้งอยู่ในพื้นที่นี้จำนวนมาก อีกทั้งการเลี้ยงสัตว์ก็ไม่ต้องใช้น้ำมาก ไม่ค่อยมีปัญหาราคาผันผวนเหมือนพืชหลายๆชนิด การเลี้ยงสัตว์ยังได้ปุยคอกจำนวนมากสนับสนุนเกษตรอินทรีย์และเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งผมถือว่านี่เป็นจุดแข็งที่เราจะต้องพัฒนาให้วงการปศุสัตว์เข้มแข็งก้าวหน้ายิ่งขึ้น ให้เป็นทางเลือกอาชีพที่มั่นคงของเกษตรกร

Previous Article
Next Article

ใส่ความเห็น

– เยาวชนไทย ก้าวสู่อาชีพในฝัน

คลังข่าวรายเดือน