หนุ่มใหญ่เมา ตะโกนลั่น ” มึงเก๋าเหรอ ” หลังมีปากเสียงกับเพื่อนบ้านจากนั้นกลับไปเอาปืนแก้บมายิงแต่ไม่โดน ก่อนถูกไม้ก้านร่มฟาดดับ
” มึงเก๋าเหรอ เดี๋ยวมึงเจอกู ” หนุ่มใหญ่เมาตะโกนลั่น หลังมีปากเสียงกับเพื่อนบ้าน สาเหตุขี่รถผ่านหน้าบ้านคู่กรณีหันไปเห็นเด็กหยอกกันหน้าบ้านจังหวะเด็กยกเท้ามาพอดี จึงเข้าไปต่อว่าให้สั่งสอนลูกหลานด้วย ก่อนเถียงกันกับเจ้าของบ้านจากนั้นตะโกนลั่น “มึงเก๋าเหรอ เดี๋ยวมึงเจอกู”ก่อนเดินไปหยิบปืนแก้บมายิงแต่ไม่โดน คู่กรณีจึงวิ่งไปหยิบไม้ก้านร่มมาตีล้มฟุบเสียชีวิต แม่ร่ำไห้อยู่ข้างศพ ส่วนญาติไม่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุทำคนเดียว
เวลา 17.50 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2560 ร.ต.อ.ประยงค์ หวังกุลกลาง รอง สว.(สอบสวน)สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุทะเลาะวิวาท และมีการใช้อาวุธปืนยิง บริเวณข้างบ้านเลขที่ 264 หมู่ 1 บ้านป่าไผ่ ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานงานสายตรวจตำบลจันทึกให้เข้าไปตรวจสอบล่วงหน้า ก่อนจะรีบเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ว่าง ข้างบ้านเลขที่ 264 หมู่ 1 บ้านป่าไผ่ ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีศพนายสมชาย บ่มกระโทก อายุ 45 ปี สภาพนอนหงาย ข้อมือทั้ง 2 ข้างถูกมัดด้วยเชือกไนฟางสีขาวไพร่หลัง สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน สวมเสื้อแขนยาวสีดำ ศีรษะด้านหลังยุบ เป็นแผลใหญ่เลือดไหลนอง ข้างศพพบอาวุธปืนแก็ปยาว วางอยู่ข้างตัว นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีนางสมนึก ศรีทองเติม อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 21 บ้านราษฎร์สามัคคี ต.จันทึก นั่งร้องไห้ ใกล้ศพบุตรชาย คร่ำครวญ “แค่นี้ก็ทำกันถึงตายเชียวเหรอ ฆ่าลูกฉันทำไม มาฆ่าแม่ดีกว่า”
จากการสอบสวน นายศักดิ์สิทธิ์ ราวิล อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 264 หมู่ที่ 1 บ้านป่าไผ่ ซึ่งอยู่ข้างที่เกิดเหตุยืนรอมอบตัวกับตำรวจที่บ้าน ให้การว่าเป็นคนตีนายสมชาย ตาย โดยไม่คิดว่าจะถึงตายจะตีเพียงสั่งสอน แต่ด้วยความโกรธหนักมือไปหน่อย โดยก่อนเกิดเหตุ ตนอยู่ที่บ้านกับ นายวิษณุ เพ็ชรประสม อายุ 23 ปี บุตรของ นางสายฝน เพ็ชรประสม อายุ 48 ปี ภรรยา พร้อมหลานอีก 2 คน อายุ 5 ขวบและ 7 ขวบ โดยนายสมชาย ผู้ตายขี่ รถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีแดง ทะเบียน งคล.825 นครราชสีมา ขับมาบนถนนหน้าบ้าน จากนั้นได้เข้ามาบอกตนในสภาพที่มึนเมาว่า ให้สั่งสอนลูกหลานด้วย ยกเท้าใส่ ตนก็เลยบอกว่า เด็กมันเล่นกัน เตะ ต่อยกันในหมู่เด็ก ๆ เด็ก ๆ คงไม่ได้ตั้งใจ ตนจึงบอกไปว่าอะไรนักหนา นายสมชาย กับบอกว่า มึงเก๋าเหรอ เดี๋ยวมึงเจอกับกู จากนั้นนายสมชาย ผู้ตายได้เดินกลับไปที่บ้านพัก เลขที่ 175 หมู่ที่ 1 บ้านป่าไผ่ ที่มีนางลัดดา พลจันทึก อายุ 53 ปี ภรรยาอาศัยอยู่ พร้อมกับถือปืนแก็ปมาเพื่อยิงใส่ตน แต่กระสุนด้าน ตนจึงให้ นายวิษณุ บุตรของนางสายฝน ภรรยา รีบไปแจ้งตำรวจ ที่ป้อมสายตรวจบ้านป่าไผ่ ที่ห่างกันประมาณ 2กม.เพื่อมาระงับเหตุ แต่ยังไม่ทันที่ตำรวจจะมา นายสมชาย ผู้ตายย้อนกลับไปบรรจุกระสุนปืนแก็ป และมุ่งหน้ามาอีกครั้ง และหันปากกระบอกมาใส่ตน ตนจึงกระโดดเข้าบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด กระสุนทะลุสังกะสีที่เป็นฝาบ้าน ถูกกระจกตู้กับข้าวเป็นรูใหญ่ ตนจึงวิ่งออกไปหยิบไม้ท่อนที่เป็นก้านร่มขายของ ยาวประมาณ 80 ซม.ออกไปตีและต่อสู้กัน แต่ด้วยที่มีรูปร่างสูงใหญ่และไม่เมา ทำให้นายสมชาย สู่ไม่ไหว ตนตีไปหลายครั้งที่ร่างกายและศีรษะ จนนายสมชายฟุบไป จากนั้นจึงไปเอาเชือกไนล่อนมามัดมือไพร่หลังเพื่อรอตำรวจ โดยไม่ทราบว่านายสมชาย เสียชีวิตแล้ว
ซึ่งในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอยุ่ระหว่างสอบสวนนายศักดิ์สิทธิ์ ผู้ก่อเหตุ และตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอยู่นั้น ญาติ พี่ น้อง ของนายสมชาย ผู้ตายซึ่งทราบข่าวได้มาอยู่บริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุพร้อมกับตะโกนบอกว่า ไม่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุจะกระทำเพียงคนเดียว ในเบื้องต้น ร.ต.อ.ประยงค์ หวังกุลกลาง พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีนายศักดิ์สิทธิ์ ราวิล ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ก่อนจะรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ในจุดเกิดเหตุ ก่อนจะดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
