(ชมคลิป) เจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ ร่วม ศปป.4 กอ.รมน. และเจ้าหน้าป่าไม้ นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายในเขต ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง หลังสืบทราบว่ามีการครอบครองและแปรรูปไม้หวงห้าม

เวลา 08.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช หรือเฉพาะกิจพญาเสือ พร้อมด้วย พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะหัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์การประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. เจ้าหน้าที่จากหน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ ปากช่อง และเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานฯ นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านเป้าหมายในเขต ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยใช้อำนาจตรวจค้นตามคำสั่ง คสช. ซึ่งให้นายทหารสามารถเข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัย ในกรณีที่เกี่ยวกับการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2017

สำหรับเป้าหมายของการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ ชุดเฉพาะกิจพญาเสือสืบทราบมาว่า ที่บ้านของนายสมาน ปรีดี อายุ 44 ปี เลขที่ 155 บ้านเขาแก้ว หมู่ที่ 10 ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีการครอบครองไม้หวงห้ามเป็นจำนวนมาก จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้น โดยมีนายสมาน เป็นผู้นำเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจในจุดต่างๆ จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบ มีบ้านซึ่งปลูกขึ้นใหม่ ราคานับสิบล้าน รถยนต์ปิคอัพจำนวน 4 คัน และยังพบไม้หวงห้ามเป็นจำนวนมากโดยภายในบ้านพบไม้พะยูงแปรรูปประกอบติดอยู่ตามผนังบ้านจำนวนคาดว่าไม่ต่ำกว่า 400 แผ่น และยังพบไม้พะยูงแปรรูปเป็นประตู โต๊ะวางของ วงกลบประตูและหน้าต่าง อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบยังพบ ไม้มะค่าโมงซึ่งแปรรูปเป็นโต๊ะขนาดใหญ่ จำนวน 4 ชุด ไม้มะค่าโมงซึ่งอยู่ระหว่างการแปรรูป เลื่อยโซ่ดัดแปลงจากเครื่องใช้ไฟฟ้า 1 เครื่อง และยังพบสัตว์ป่าคุ้มครอง อีเห็น 1 ตัว ภายในกรงหลังบ้าน และจากการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินพบว่า บ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่ในที่ดิน ส.ปก.4-01 ซึ่งผู้ครอบครองไม่ตรงกับเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

โดยนายสมานได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ตน มีรถบรรทุก ประมาณ 10 คัน มีแมคโฮ ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ อีก 2 คัน ขณะเดียวกัน นายสมานได้อ้างว่า ว่า ตนทำงานให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเป็นนายตำรวจ ยศนายพลฯ พร้อมชี้แจงต่อว่าไม้มะค่าที่เห็นนั้นตนได้ซื้อและได้มาจากในพื้นที่ของตน จึงได้ทำการแปรรูปนำมาเก็บไว้ใช้ ส่วนสัตว์ป่าอีเห็น ตนเลี้ยงไว้เนื่องจากแม่มันตาย และไม้พะยูงนั้น ตนมีอาชีพรับจ้างและรับเหมา ได้รับเหมาบริเวณพื้นป่าใกล้เคียงเขาใหญ่ เมื่อพบไม้พะยูงจึงยกใส่รถยนต์ ก่อนนำมาแปรรูปที่บ้านแล้วทำเป็นไม้ประดับตกแต่งภายในบ้านอย่างที่เห็น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหานายสมานว่า มีเครื่องเลื่อนยนต์ สติล แบบไฟฟ้า ไว้ในการครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้แปรรูปไม้มะค่าโมงเกิน 0.20 ลบ.ม. ไว้ในครอบครอง ทำการแปรรูปไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มีสัตว์ป่าคุ้มครอง อีเห็น ไว้ในการครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งได้จัดการจดบันทึกไม้พะยูงทุกแผ่นที่อยู่ภายในบ้าน และให้นายสมาน นำเอกสารทางราชการและหลักฐานการได้มาของไม้ชนิดต่างๆ ที่มีการตรวจพบของเจ้าหน้าที่ มาทำการชี้แจงเพื่อแก้ข้อกล่าวหาต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากตรวจสอบแล้ว ทางการสามารถรับได้โดยเป็นหลักฐานทางพฤตินัย และนิตินัย เจ้าหน้าที่จะถือว่าไม้พะยูงนี้ นายสมานก็จะสามารถครอบครองได้อย่างถูกต้องถูกกฎหมายต่อไป

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2017

จากนั้น นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพญาเสือ ได้นำกำลังไปที่บ้านของนายจิรวัฒน์ งามเลิศ หรือนายยง อายุ 45 ปี เลขที่ 47 ม 10 ต.วังกระทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งห่างจากบ้านของนายสมานไปประมาณ 500 เมตร โดยนายยง เจ้าของบ้านเป็นผู้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณโดยรอบบ้าน ซึ่งมีบ้าน ห้องแถวสำหรับคนงานและโรงเรือนสำหรับซ่อมรถกระจายอยู่ในพื้นที่โดยรอบ จากการตรวจสอบพบไม้มะค่าโมง แผ่นใหญ่ๆ จำนวนไม่น้อยกว่า 5 แผ่น ไม้มะค่าโมงแปรรูปเป็นลูกบันได อีกไม่น้อยกว่า20แผ่น ไม้มะค่าโมงแปรรูปเป็นไม้แว่นคือผ่าขวางลำต้น อีกไม่น้อยกว่า 8แผ่น ไม้แปรรูปแผ่นใหญ่ ไม้กระดานอีกจำนวนมาก ไม้ท่อนเหลี่ยม อีกไม่น้อยกว่า 4 ท่อนเหลี่ยม และยังพบไม้พะยูงอีกประมาณ 20 แผ่น เจ้าหน้าที่จึงทำการบันทึกไว้เป็นหลักฐานซึ่งขณะที่นายจิรวัฒน์ หรือนายยงค์ นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นตามจุดต่างๆ นั้น นายยงค์ได้อ้างว่าตนได้มาอาชีพทำไร่และเป็นมือเลื่อยไม้ที่มีชื่อเสียงในพื้นที่อยู่แล้ว จะไปซื้อไม้และแปรรูปไม้ในที่ต่างๆ บางครั้งก็รับจ้างแปรรูปไม้ โดยคนที่จ้างจะให้ไม้แทนค่าจ้าง ส่วนไม้พยุง ที่เจ้าหน้าที่พบนั้นนายยงค์ ได้อ้างว่ามีบุคคลซึ่งไม่รู้จักหรือจำชื่อไม่ได้ มาขายให้ตนจึงซื้อไว้ ซึ่งเมื่อ เจ้าหน้าที่ได้พยายามถามถึงคนที่มาขาย นายยงไม่ยอมบอกชื่อ หรือคนที่นำไม้มาให้แต่อย่างใดโดยอ้างว่าจำไม่ได้บ้าง หรือไม่รู้ว่าเป็นใครบ้าง

ซึ่งจากการสังเกตุของเจ้าหน้าที่ ระบุว่าไม้ที่ตรวจพบทุกแผ่นนั้นจะวางซุกซ่อนตามมุมและตามเพิงพักกรอบๆบ้าน ซึ่งไม้แต่ละแผ่นที่มีร่องรอยการผ่านั้น ใช้เลื้อยโซ่ยนต์ในารดำเนินการทั้งสิ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแจ้งข้อหากับนายจิรวัฒน์ หรือนายยงค์ ว่า มีไม้มะค่าโมง ไม้ประดู่ มีไว้ในการครอบครองเกิน เกินปริมาตร ที่รัฐกำหนด คือเกิน 0.20 ลบ.ม. โดยที่ไม่ได้รับอนุญาติจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มีการแปรรูปไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาต มีเครื่องเลื่อยโซยนต์ ไว้ในครอบครองผิด พรบ.เลื่อยโซ่ยนต์ 2535 และ พรบ.ศุลกากร และ มีไม้พยุง ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม ไว้ในการครอบครองโดยไม่ได้รับการอนุญาต

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2017

 

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพญาเสือ ระบุว่า จากการเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายทั้ง 2 หลัง ตามข้อมูลที่สืบทราบมานั้น เบื้องต้นพบว่าทั้ง 2 หลังมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองเกินกว่ากฏหมายกำหนด ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการอายัดไว้ก่อน เพื่อให้ผู้ครอบครอง นำหลักฐานการได้มาของไม้หวงห้ามที่ตรวจพบมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อแก้ข้อกล่าวหาซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งไว้ โดยหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการได้มาอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ก็สามารถครอบครองต่อไปได้ หรือหากจะมีการแต่งตั้งทนาย เข้าต่อสู้เพื่อแก้ข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ในวันนี้นั้น ก็สามารถกระทำได้ตามสิทธิของกฏหมาย

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่http://www.pakchongnews.com/news

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2017

Previous Article
Next Article

ใส่ความเห็น

– เยาวชนไทย ก้าวสู่อาชีพในฝัน

คลังข่าวรายเดือน