จนท.ปูพรมตรวจความเสียหายสวนป่าสัก 184 ไร่ติด ถ.ธนะรัตซ์ เขาใหญ่ หลังถูกนายทุนบุกรุก


เวลา 10.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม 2561 พล.ต.อนุสรณ์ นุตสถิตย์ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ( กร.มน.) จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ นายอำเภอปากช่อง นายบรรเจิด มากศิริ หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม. 1 (ปากช่อง) พ.ต.ต.วีระศักดิ์ พูลพุทธา สว.บก.3 บก.ปทส. พ.ตจ.ท.หริพงศ์ แววโคกสูง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หมูสี นายทะนงศักดิ์ สินแสนสุข กำนันตำบลหมูสี สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ กรมป่าไม้ ปกครอง ตำรวจ ทหารจาก มท.บ.21 นครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจสอบสวนป่าสัก กม.ที่ 12 ริมถนนธนะรัชต์ ต. หมูสี อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา ตามคำสั่งของ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มีกลุ่มนายทุนอ้างสิทธิ์ เข้าไปยึดครองพื้นที่สวนป่าสักจำนวน 184 ไร่ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2018

สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 5 ที่มีการลงพื้นที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ นับตั้งแต่มีกลุ่มนายทุนอ้างสิทธิ์ในการครอบครองพื้นที่สวนป่าสัก ริมถนนธนะรัตซ์ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยพื้นที่ดังกล่าวมีขนาด 184 ไร่ และมีต้นสักอายุกว่า 50 ปีมากกว่า 20,000 ต้น รวมมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ ได้มีรองอธิบดีกรมป่าไม้ ชุดพยัคฆ์ไพร ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่มาแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก โดยพื้นที่แห่งนี้อยู่ในความดูแลของ นิคมสร้างตนเองลำตะคอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ นิคมสร้างตนเองลำตะคอง ได้มีการเข้าแจ้งความ กับ พ.ต.ท.หริพงศ์ แววโคกสูง รอง ผกก.(สอบสวน ) สภ.หมูสี ว่านายทุนบุกรุกพื้นที่เพียง 2 งานเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริง กลุ่มนายทุนจากที่อื่นและในพื้นที่ เข้ายึดครองพื้นที่ทั้งหมด 184 ไร่ โดยไม่มีเอกสารใด เพียงอ้างว่า เป็นพื้นที่ ของปู่ย่า ตายาย เคยถือครองทำกินมาก่อน ทางเจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองลำตะคองจึงได้มีการเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมเป็น 184 ไร่ กับ พ.ต.ท.หริพงศ์ แววโคกสูง รอง ผกก.(สอบสวน ) สภ.หมูสี แล้ว แต่ยังไม่พร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ โดยอ้างว่าต้องไปปรึกษาฝ่ายนิติกรของทางนิคมฯ ก่อน

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2018

สำหรับในการเข้าตรวจสอบพื้นที่แต่ละครั้ง จะมีนาย พนมกร แลกปั้น ซึ่งอ้างตนว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ทั้งหมด และยังได้ทำป้ายมาติดไว้แสดงตัวเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว สำหรับป้ายที่แสดงการเป็นเจ้าของที่นิคมสร้างตนเองลำตะคองได้นำติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้ ถูกกลุ่มผู้บุกรุกทำลายจนล้มได้รับความเสียหาย แต่ทุกครั้งเมื่อเจ้าหน้าที่ขอดูหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของจาก นายพนมกร ก็มักจะอ้างว่า กำลังตรวจสอบสิทธิ์การครอบครอง โดยระบุว่า แม่ของตนเคยได้เข้ามาทำกินประมาณ 50 กว่าปีแล้ว และแม่ก็ตายแล้ว จึงไม่มีหลักฐานอะไรเลย แต่ก็ไม่ยอมออกจากพื้นที่

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2018

ด้าน พล.ต.อนุสรณ์ นุตสถิตย์ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ( กร.มน.) จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การนำเจ้าหน้าที่ ประมาณ 80 นาย ลงพื้นที่วันนี้ ตามคำสั่งของ ผวจ.นครราชสีมา เพื่อสำรวจต้นไม้ และรั้วคาวบอย ซึ่งเป็นของทางราชการ และตรวจสอบว่า มีการปลูกเพิงพักในพื้นที่เพิ่มเติมกี่หลัง จากเดิมมี 3 หลัง นอกจากนี้ยังได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบตัดไม้ต้นสักขนาดใหญ่ไปจำนวนหลายต้น ซึ่งทางการยังไม่ต้องการใช้กฎหมายพิเศษ ม.44 ขับไล่ ให้กลุ่มผู้บุกรุกออกจากพื้นที่แต่อย่างใด เนื่องจากคดีที่เจ้าหน้าที่แจ้งความไว้นั้น อยู่ในขั้นตอนพิจารณาของอัยการ อีกทั้งพื้นที่ตรงนี้มีราคาสูงมากคาดว่าราคาไร่ละ ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท และยังมีต้นสักขนาดใหญ่มีอายุมากกว่า 50-60 ปี ประเมินค่าไม่ได้ ที่มีเจ้าหน้าที่และนักศึกษา สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งร่วมกันปลูกเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2505-06 ส่วนการดำเนินการทางคดีความจะใช้เวลาอีกเท่าไร ตนยังให้คำตอบไม่ได้ แต่คาดว่าน่าจะไปถึงศาลฎีกา

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2018

ด้าน พ.ต.ท.หริพงศ์ แววโคกสูง รอง ผกก.(สอบสวน ) สภ.หมูสี กล่าวว่า ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่นิคมลำตะคอง ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ว่ามีการบุกรุกเพียง 2 งาน และพนักงานสอบสวนได้สอบสวนและส่งสำนวนไปยังอัยการ ปากช่อง แล้ว ต่อมาได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ ถึงหน่วยงานนิคมสร้างตนเองลำตะคอง รวมถึง ภาคประชาชนอำเภอปากช่อง ได้เชิญเจ้านิคมสร้างตนเองลำตะคอง ไปให้รายละเอียดความคืบหน้าในเรื่องคดี ที่ห้องประชุมภาคประชาชนบนชั้น 3 อำเภอปากช่อง มาแล้ว ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ นิคมเข้าแจ้งความการบุกรุกเพิ่มอีกทั้ง 184 ไร่ กับ พ.ต.ท.เขมชาติ แปดแก้ว สว.สอบสวน แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของนิคมฯลำตะคอง เดินทางมาให้การกับพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำ ซึ่งก็ละเลยมานานกว่า 4 เดือนแล้ว จากนี้ไปคงต้องออกหมายเรียก เพื่อให้ จนท.มาให้การต่อไป ซึ่งก็แปลกดูแล้วน่าจะมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลอยู่

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2018

สำหรับบริเวณพื้นที่ ที่ถูกบุกรุกนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตำบลหมูสี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ ช่วยกันดูแลพื้นที่ มายาวนานเพราะถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกต้นสักร่วมกันมานานกว่า 50 – 60 ปี เพื่อหวังให้พื้นที่เป็นสมบัติของชาติและเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติสวนป่า แต่ก็ได้มีผู้เข้าไปอ้างสิทธิ์ยึดครอง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งที่ไม่มีเอกสารใดๆ คงมีข้าราชการ และอดีตข้าราชการ รวมทั้งผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นมีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปยึดครอง โดยเมื่อ 3-4 ปี ที่ผ่านมา ในช่วง พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง จัดงบประมาณทำรั้วคาวบอยเพื่อล้อมแสดงแนวเขตรอบพื้นที่สวนป่าสัก แห่งนี้ โดยมีโครงการก่อสร้างศูนย์เรียนรู้จัดแสดงสินค้าของกลุ่มชุมชน ก่อนจะมีผู้เข้าไปบุกรุกอ้างสิทธิโดยไม่มีเอกสารใดๆ ของที่ดินทั้ง 184 ไร่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีหลักฐานการซื้อขายที่ดินบริเวณนี้แล้วจำนวน 10ไร่ ไร่ละ 5 ล้าน และวางมัดจำแล้ว 1 ล้าน เมื่อทำเอกสารการครอบครองได้จะจ่ายให้อีก 49 ล้าน ทราบว่าที่ดินแปลงนี้ มีนายทุน อยู่เบื้องหลังที่จะหาทางให้เอามาเป็นของตนเอง มีการตกลงแบ่งผลประโยชน์กันแล้ว โดยให้นายพนมกร ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว เข้ามาเป็นนอมินีบุกรุกและสร้างเพลิงพักประมาณ 4 หลัง ในพื้นที่ การลงตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ จะเป็นเหมือนทุกครั้งแต่ไม่มีอะไรคืบหน้า กลุ่มผู้บุกรุกก็ยังยึดพื้นที่และทำการก่อสร้างเพลิงพักขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านกังขา มาลงพื้นที่เพื่อสร้างภาพสร้างผลงานเท่านั้นหรือไม่ ซึ่งพื้นที่ในเขต อ.ปากช่อง มีราคาสูงมาก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ ต.หมูสี เขาใหญ่ จะมีราคาตกไร่ละไม่ต่ำกว่า 8-10 ล้านบาท

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :: http://www.pakchongnews.com

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2018

Previous Article
Next Article

ใส่ความเห็น

– เยาวชนไทย ก้าวสู่อาชีพในฝัน

คลังข่าวรายเดือน